ประวัติหลวงพ่อฉาว เกสโร "กำแพงแสน" เป็นเมืองเก่าสมัยพุทธศตวรรษที่ ๑๑-๑๖ ตั้งอยู่ระหว่างเมืองอู่ทองและเมืองนครไชยศรี และเชื่อกันว่า น่าจะเป็นเมืองบริวารขนาดเล็กของเมืองนครไชยศรี มีพื้นที่ประมาณ ๔๐๐ ไร่ ไม่เหลือสิ่งก่อสร้างโบราณแต่อย่างใดเลย ถ้ามองจากภาพถ่ายทางอากาศจะเห็นเป็นรูปสี่เหลี่ยมมุมมน มีคูน้ำขนาดกว้างกว่า ๒๐ เมตร ล้อมรอบ มีคันดินเสมือนหนึ่งเป็นกำแพงเหลือให้เห็นอยู่โดยรอบ
สิ่งที่ชาว กำแพงแสนภูมิใจมากคือ เมื่อมีการขุดค้นเพียงบางส่วน แม้ถูกทำลายไปอีกหลายส่วน แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ ชาวกำแพงแสนก็ยังเหลือความภูมิใจที่ได้พระสมัยทวารวดีไว้บูชาอันเป็นหลักฐานมั่นคงว่า เมืองกำแพงแสนมีอยู่จริง มีอยู่อย่างควรอนุรักษ์รากเหง้าชาวกำแพงแสนและมีพระทวารวดีให้กราบไหว้ได้สิริมงคลใส่ตัว ปัจจุบันนี้พระทวารวดีได้เก็บรักษาและระแวดระวังภัยอยู่ที่วัดสว่างชาติประชาบำรุง หมู่ ๕ บ้านยาง ต.ทุ่งกระพังโหม อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ซึ่งมี หลวงพ่อฉาว เกสโร หรือ พระครูโอภาสประชานุกูล เป็นเจ้าอาวาส
หลวงพ่อฉาว ท่านร่ำเรียนวิชาไสยเวทวิทยาคมมาจากหลวงพ่อลำเจียก วัดศาลาตึก พระเถราจารย์ผู้เป็นศิษย์ของหลวงพ่อจันทร์ วัดบ้านยาง (และอุปัชฌาย์ของท่าน) ได้รับการถ่ายทอดวิชามนต์จินดา พร้อมทั้งวิชายันต์นะปัดตลอด นอกจากนี้ท่านยังได้ศึกษาวิชากับหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง ผู้เป็นสหธรรมิกกับหลวงพ่อจันทร์ วัดบ้านยาง และได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมจากหลวงพ่อหว่าง วัดกำแพงแสน ตลอด ๓ พรรษา
สำหรับวิชาลงหวายอาคมคาดเอวของท่านสามารถกำราบภูตผีปีศาจ หรือแก้กันคุณไสยได้อย่างยอดเยี่ยม ท่านได้ร่ำเรียนมาจากหลวงพ่อเกลี้ยง วัดเขาใหญ่ จ.กาญจนบุรี และยังได้ศึกษาวิชาอาคมกับหลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้ จ.กาญจนบุรี อีกด้วย มูลเหตุทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมานี้ หลวงพ่อลำเจียกท่านได้ถ่ายทอดสรรพเวทวิทยาวิชาอาคมต่างๆ ให้หลวงพ่อฉาว ผู้มีศักดิ์เป็นหลานของท่านจนหมดสิ้น ดังนั้นจึงถือได้ว่าหลวงพ่อฉาวท่านคือผู้สืบทอดสายวิชาสรรพเวทวิทยาอาคมต่างๆ จากพระอริยสงฆ์ผู้ทรงคุณพระเวทวิทยาคมเข้มขลังชื่อดังครั้งอดีตที่กล่าวมาทั้งหมดอย่างแน่นอน